Quantcast
Channel: CatDumb –แคทดั๊มบ์ | เล่าเรื่องน่าสนใจ ในแบบที่แมวก็เข้าใจง่ายๆ
Viewing all 20863 articles
Browse latest View live

‘เอมมี่ มรกต’แฉ Donald Trump บุกเข้าหลังเวที Miss Universe 2004 ทั้งที่มีกฎห้ามผู้ชายเข้า

$
0
0

หลังจากที่มิสยูนิเวิร์สเม็กซิโกได้รับตำแหน่ง Miss Universe ประจำปี 2020 ก็ทำเอาเหล่าแฟนๆ นางงามประเทศไทยเราผิดหวังกันไปตามๆ กัน

ด้วยความที่เรื่องนี้ได้รับการวิพาษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง ทางรายการแฉ จากช่อง GMM25 จึงได้เชิญ ลูกเกด เมทินี และ แอนนา ทีวีพูล มาร่วมพูดคุยวิเคราะห์ผลการตัดสินผ่านทางรายการ เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2021 ที่ผ่านมา

 

 

เรียกได้ว่าเป็นการวิเคราะห์ที่เผ็ดและดุเดือดจริงๆ ค่ะ เพราะทั้งแขกรับเชิญ รวมถึงตัวพิธีกรรายการเองก็ถกเถียงแสดงความเห็นกันอย่างเมามันส์

โดยในตอนนั้นเอง เอมมี่ มรกต แสงทวีป อดีตผู้ครองตำแหน่งมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ ปี 2004 ก็ถูกตั้งคำถามถึงเหตุการณ์แปลกๆ ที่พบเจอบนเวทีระดับโลกนี้

ซึ่งเอมมี่ได้เล่าถึงวันประกวดในรอบพรีลิมว่ามีชายคนหนึ่งได้รับอนุญาตให้เข้ามาหลังเวที ทั้งที่มีกฎอย่างชัดเจนว่าห้ามผู้ชายเข้า ชายคนนั้นคืออดีตประธานาธิบดีอย่าง Donald Trump ค่ะ เอมมี่เล่าว่า

 

 

“หลังเวทีตอนที่เราประกวดกับ 88 ประเทศ เขาไม่ให้ผู้ชายเข้าหลังเวทีเลย เพราะผู้หญิงทุกคนจะต้องแบบว่า แต่งตัวเร็ว เปลือยชุด จะต้องแบบรีบขึ้นเวที

เพราะฉะนั้นผู้ชายห้ามเข้า หนึ่งคนเดียวที่ได้เข้าคือคุณ Donald Trump และก็ได้เข้ามาแบบว่าไม่ใช่รีบเดินแล้วผ่านไปอะไรเงี้ย คือเข้ามาเชยชม มีควงสาวๆ มาด้วย”

 

 

ตอนนั้นเอมมี่และเพื่อนนางงามแต่ละคนตกใจกันมากค่ะ เพราะ Trump เดินวนรอบหลังเวที ชี้นั่นชี้นี่เหมือนกับเป็นเรื่องปกติ ซึ่งเอมมี่มองว่าสิ่งนี้เป็นสิ่งที่ผิดปกติบนเวทีนางงามและติดใจเธอมาตลอด 17 ปีที่ผ่านมา

 

 

หากย้อนไปในปี 2004 ในตอนนั้น Trump เป็นเจ้าของเวทีการประกวดนี้ค่ะ ในปีนั้นตัวเขาเคยมีข่าวแตะเนื้อต้องตัว จูบและพูดจาเชิงคุกคามทางเพศ Jennifer Hawkins มิสยูนิเวิร์ส 2004 อีกด้วย

ถือว่าเป็นอีกหนึ่งเหตุการณ์ที่ทำให้เราได้เห็นอีกแง่หนึ่งของเวทีประกวดนางงามที่ยิ่งใหญ่ระดับโลกเลยค่ะ เรียกได้ว่าเป็นเรื่องที่ค่อนข้างใหญ่จริงๆ

 

ชมคลิปเต็มๆ ได้ด้านล่างนี้เลย

 

เรียบเรียงโดย #เหมียวนานะ

ที่มา: GMM25Thailand


น้องสีนิลเก่งเกิน ไล่เห่าคนแปลกหน้าตอนกลางคืน เช้าวันถัดมาคาบยาบ้าเข้าอู่ 2,000 เม็ด

$
0
0

ว่ากันว่าสุนัขเป็นสัตว์แสนรู้ เฝ้าบ้านเก่ง ระวังภัยรอบบ้านให้กับเจ้าของได้เป็นอย่างดี แถมยังรู้หน้าที่ในการคาบของแปลกๆ ที่ตกบริเวณอาณาเขตบ้านเข้ามาให้เจ้าของด้วยนะเนี่ย…

 

 

เหตุการณ์เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2564 ที่จังหวัดอุดรธานี เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุร่มโพธิ์ทองว่า มีน้องหมาตัวหนึ่งคาบยาบ้าเข้ามาในอู่ซ่อมรถในพื้นที่ตำบลบ้านจั่น

 

 

เมื่อเจ้าหน้าที่ไปถึงอู่ก็พบสุนัขพันธุ์ไทยตามที่ได้รับแจ้ง เป็นสุนัขเพศเมีย สีขาว อายุ 2 ปี ชื่อน้องสีนิล คาบถุงพลาสติกสีขาวเข้ามาในอู่ซ่อมรถ ข้างในมีห่อพลาสติกสีดำพันเทปใส พอแกะออกมาดูก็พบว่าเป็นยาบ้า 10 ถุง จำนวน 2,000 เม็ด

 

 

ช่วงจังหวะที่เจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบยาบ้าที่น้องสีนิลคาบเข้ามา มีชายอายุประมาณ 30 ปี ขี่รถจักรยานยนต์มาจอดริมรั้วอู่ มีท่าทางพิรุธ ตำรวจจึงเชิญตัวมาสอบสวนที่โรงพัก แต่ไม่พบข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดจึงปล่อยตัวไปภายหลัง

 

 

ทางด้าน นายโอ๋ อายุ 59 ปี ผู้เป็นเจ้าของอู่ซ่อมรถและเจ้าของน้องสีนิล ระบุว่า ช่วงเวลาประมาณ 20.00 น. เห็นมีผู้ชายวัยุร่น 2 คนขี่รถจักรยานยนต์วนไปมาในซอย ติดไฟฉายส่องกบมาด้วย น้องสีนิลจึงวิ่งไล่เห่า

 

 

ตอนแรกนึกว่าเป็นชาวบ้านมาหาปลา แต่ขี่วนไปวนมาหลายรอบ จนตอนเช้าน้องสีนิลไปคาบถุงพลาสติกเข้ามาในอู่ ก็เลยเรียกเพื่อนให้มาเปิดดู ส่วนตนเข้าไปกินยาไทรอยด์ในบ้าน เมื่อเดินออกมาจึงทราบจากเพื่อนว่าเป็นยาบ้า จึงโทรแจ้งตำรวจให้มาตรวจสอบ

 

 

ร.ต.อ.เจริญชัย นิกูลกาญจน์ ได้ตั้งข้อสันนิษฐานไว้ว่า แก๊งค้ายาน่าจะนำยาบ้ามาส่งวางทิ้งตามจุดที่นัดหมายเอาไว้ แต่ทว่าน้องสีนิลดันไปเจอก่อนแล้วก็คาบเข้ามาในอู่

ซึ่งหลังจากนี้ได้ประสานชุดสืบสวน ตรวจกล้องวงจรปิดตามเส้นทางเพื่อติดตามหาตัวเจ้าของยาบ้ามาดำเนินคดีตามกฎหมาย

 

 

ที่มา: ch7, สํานักข่าวไทย TNAMCOT, pptvhd36

ฟอสซิล “อึมนุษย์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก”ยาวกว่า 20 เซนติเมตร! คาดว่าเป็นของ “ชาวไวกิ้ง”

$
0
0

เพื่อนๆ อาจจะเคยเห็น ตึกที่สูงที่สุดในโลก หรือสะพานที่ยาวที่สุดในโลก แต่สำหรับบทความนี้ #เหมียวตะปู จะชวนเพื่อนๆ ไปเจอกับ ‘ฟอสซิลอึมนุษย์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก’ กัน!!

 

*ภาพเนื้อหาอาจไม่สบายตาสักเท่าไหร่*

 

นี่คือภาพของ “ฟอสซิลอึมนุษย์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก” ที่ถูกบันทึกไว้อย่างเป็นทางการ

 

ย้อนกลับไปเมื่อปี 1972 นักโบราณคดีจากองค์กร York Archaeological Trust ได้ค้นพบฟอสซิลอุจจาระก้อนมหึมานี้ในเมืองยอร์ก ประเทศอังกฤษ

การค้นพบในครั้งนี้สร้างความตกใจให้กับนักโบราณคดีเป็นอย่างมาก เพราะจากการตรวจสอบแล้วพบว่ามันคืออุจจาระของมนุษย์ในช่วงศตวรรษที่ 9 นับเป็นฟอสซิลที่มีอายุกว่า 1,000 ปี!!

 

ฟอสซิลอุจจาระก้อนนี้มีชื่อเรียกว่า The Lloyds Bank Coprolite

(ชื่อนั้นมาจากการที่ในเวลาต่อมา บริเวณที่พบฟอสซิลดังกล่าวได้มีการก่อสร้างสาขาย่อยของธนาคาร Lloyd Bank)

 

ขนาดของอึมนุษย์ก้อนนี้ถือว่าใหญ่มาก มีความยาวอยู่ที่ 20 เซนติเมตร และกว้าง 5 เมตร ซึ่งเหล่านักโบราณคดีต่างให้คำนิยามอึก้อนนี้ว่า “มันคือหนึ่งในการค้นพบที่น่าทึ่งจนไม่สามารถประเมินค่าได้”

ไม่ใช่แค่ค้นพบ แต่พวกเขายังได้มีการวิจัยศึกษาเกี่ยวกับรายละเอียดของมันให้มากยิ่งขึ้น จนได้รู้ถึงขนาดที่ว่าเจ้าของอึก้อนนี้ได้กินอะไรไปในตอนนั้นบ้าง

นักวิทยาศาสตร์กล่าวว่า คนที่เป็นเจ้าของอึน่าจะกินอาหารจำพวกขนมปังและเนื้อสัตว์เป็นหลัก อีกทั้งยังพบไข่พยาธิหลายร้อยตัวในอึก้อนนี้ จึงคาดการณ์ได้ว่าในลำไส้ของคนคนนั้นน่าจะมีพยาธิอยู่เป็นจำนวนมาก

 

นอกจากนั้นแล้วยังมีการสันนิษฐานว่า เจ้าของอึน่าจะเป็น “ชาวไวกิ้ง”

(เพราะว่าในยุคสมัยนั้น เมืองยอร์กเคยเป็นถิ่นที่อยู่อาศัยของชาวไวกิ้งมาก่อน)

 

ปัจจุบัน ฟอสซิลอึก้อนนี้ก็ถูกจัดแสดงเอาไว้ที่สถาบัน York’s Archaeological Resource Centre โดยต้องล็อกเอาไว้อย่างที่เห็นในภาพ

สาเหตุที่ต้องล็อกเอาไว้ในสภาพนั้น เป็นเพราะว่าในปี 2003 เคยมีคุณครูพานักเรียนมาทัศนศึกษาแล้วดันไปเคาะตู้จัดแสดง จนทำให้ก้อนอึแตกเป็นสามส่วน ก่อนที่จะสามารถฟื้นฟูให้กลับมาเป็นสภาพเดิมได้

 

เรียบเรียงโดย #เหมียวตะปู

ที่มา: LadBible , TheSun

ประสบการณ์อันเลวร้ายในวัย 19 ปี ของ Lady Gaga ถูกโปรดิวเซอร์ข่มขู่ –ข่มขืน จนตั้งครรภ์

$
0
0

Lady Gaga เป็นอีกหนึ่งศิลปินที่เริ่มเข้าวงการเพลงตั้งแต่อายุยังน้อย แต่ชีวิตของเธอไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบอย่างที่ใครคาดคิด เพราะเธอต้องเผชิญหน้ากับการถูกล่วงละเมิดทางเพศมาก่อนค่ะ

เมื่อไม่นานมานี้ Lady Gaga ได้ออกมาเล่าเรื่องราวผ่านทางสารคดี The Me You Can’t See ที่ฉายบน Apple TV+ ว่าเธอเคยถูกโปรดิวเซอร์คนหนึ่งในวงการข่มขืน ตอนที่เธออายุแค่เพียง 19 ปีเท่านั้น

 

 

จริงๆ แล้วเรื่องราวนี้ Lady Gaga เคยเปิดเผยมาตั้งแต่ปี 2020 แล้ว ซึ่งเธอเลือกที่จะไม่เปิดเผยชื่อของโปรดิวเซอร์ แม้เหตุการณ์นี้จะกลายเป็นแผลทางจิตใจถึงขนาดทำให้เธอเกิดภาวะ PTSD (ภาวะป่วยทางจิตจากเหตุการณ์รุนแรง) ก็ตาม

ในสารคดี The Me You Can’t See เธอได้หยิบเรื่องนี้มาพูดถึงอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ Lady Gaga เจาะเบื้องลึกมากกว่าบทสัมภาษณ์ครั้งก่อน จนทำให้ผู้ชมต่างสะเทือนใจไปตามๆ กัน เธอเล่าในรายการว่า

 

“ตอนนั้นฉันอายุ 19 ปี กำลังทำงานในวงการ และมีโปรดิวเซอร์คนหนึ่งพูดขึ้นมาว่า ‘ถอดเสื้อผ้าออกให้หมด’ แต่ฉันปฏิเสธและเดินออกมา

จากนั้นเขาก็บอกว่าจะเผาเพลงของฉันทิ้งทั้งหมดและเขาไม่หยุดค่ะ เขาไม่หยุดบังคับ จนฉันตัวแข็งทื่อและจำอะไรไม่ได้อีกเลย”

 

Lady Gaga กล่าวทั้งน้ำตา หลายปีต่อมาเธอเริ่มมีอาการเจ็บปวดและชาตามร่างกาย จึงไปโรงพยาบาลเพื่อตรวจดูอาการ

หลังจากที่แพทย์ได้ตรวจร่างกายของเธออย่างละเอียดและไม่พบสิ่งผิดปกติ แพทย์จึงส่งจิตแพทย์มาให้เธอพูดคุยแทน Lady Gaga เล่าต่อว่า

“ฉันรู้สึกเจ็บปวดร่างกายและตัวชา หลังจากที่ป่วยติดกันหลายสัปดาห์ ฉันจำได้ว่าความเจ็บปวดนี้เป็นความเจ็บปวดเดียวกับตอนที่เขาคนนั้นข่มขืนฉันจนท้อง

และฉันต้องกลับไปอยู่บ้านกับพ่อแม่เพราะฉันอาเจียนและรู้สึกไม่สบาย เพราะฉันโดนล่วงละเมิด… ฉันถูกขังอยู่ในสตูดิโอเป็นเดือนๆ”

 

 

ผลของเหตุการณ์นี้ทำให้เธออยู่ในภาวะ PTSD และเกิดอาการ Fibromyalgia ที่ส่งผลทำให้เธอเกิดอาการปวดกล้ามเนื้ออย่างหนัก เนื่องจากการถูกทำร้ายจิตใจอย่างรุนแรง เธอกล่าวต่อว่า

“ความเจ็บปวดนี้มันเหมือนกับความเจ็บปวดหลังจากที่ถูกข่มขืน ฉันเข้ารับการสแกน MRI บ่อยครั้ง แล้วก็ไม่เจออะไร แต่ร่างกายของเรามันจำได้ ฉันไม่รู้สึกอะไรเลย ฉันเชื่อมโยงอะไรไม่ได้ เหมือนสมองของคุณเข้าโหมดออฟไลน์

คุณไม่รู้ว่าทำไมไม่มีใครหวาดระแวงอะไรเลย แต่คุณกลับหวาดระแวงอย่างหนัก”

 

 

กว่า Lady Gaga จะออกมาจากจุดนี้ได้เธอต้องใช้เวลามากถึง 2 ปี ทั้งพบแพทย์ เข้ารับการบำบัด และใช้เสียงดนตรีเป็นตัวช่วย กว่าจะมาถึงจุดนี้เป็นอะไรอีกหนักหน่วงสำหรับเธอจริงๆ ค่ะ

 

เรียบเรียงโดย #เหมียวนานะ

ที่มา: insider, eonline

วิจัยพบ สมองสามารถปรับตัวรับ “นิ้วโป้งที่ 3”ได้สบาย อาจเปิดทางสร้างอวัยวะเสริมในอนาคต

$
0
0

เชื่อว่าเพื่อนๆ คงจะเคยเห็นตัวละครอย่าง “ดอกเตอร์ออกโทปุส” ในเรื่องสไปเดอร์แมน และแอบคิดสงสัยกันขึ้นมาว่า การต่ออวัยวะเพิ่มเติมขึ้นมาในร่างกายมนุษย์เช่นนี้ มันจะเป็นไปได้จริงๆ ไหม ในโลกแห่งความจริงกันมาบ้าง

ดังนั้นนี่จึงอาจจะถือเป็นข่าวดีที่น่าสนใจสำหรับหลายๆ คนเลยทีเดียว เพราะเมื่อล่าสุดนี้เอง นักประสาทวิทยาจากมหาวิทยาลัยคอลเลจลอนดอน ได้เพิ่งจะออกมาตีพิมพ์การวิจัยที่บอกว่า

มนุษย์เรานั้น ไม่เพียงแต่จะสามารถต่ออวัยวะจักรกลเพิ่มขึ้นมาในร่างกายได้จริงๆ เท่านั้น แต่สมองของเรายังสามารถปรับตัวให้เข้ากับการมีอวัยวะใหม่ได้ผ่านการฝึกฝน แบบสบายๆ เลยด้วย!!

 

 

เรื่องราวในครั้งนี้ ถูกตีพิมพ์เป็นครั้งแรกภายในวารสาร Science Robotics เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2021

โดยนักวิทยาศาสตร์ได้อธิบายถึงการทดลองใช้ “นิ้วโป้งที่ 3” นิ้วจักรกลที่ออกแบบมาเพื่อให้เป็นนิ้วมือที่หก ซึ่งสามารถควบคุมมันได้โดยใช้เซนเซอร์ไร้สาย ด้วยการส่งแรงกดเล็กน้อยไปยังด้านใต้ของนิ้วหัวแม่เท้าของตัวเอง

ภายในการศึกษาว่าสมองของเรามีการปรับตัวอย่างไร ต่ออวัยวะที่เพิ่มขึ้นมาของร่างกาย ด้วใยการ ให้อาสาสมัครกลุ่มล่ะ 20 คน (แบ่งเป็นกลุ่มทดลองและกลุ่มควบคุม) ใช้ชีวิตประจำวัยและหยิบจับของต่างๆ โดยสวมนิ้วโป้งจักรกลไว้วันละ 6 ชั่วโมง  เป็นเวลา 5 วัน

 

 

 

พวกเขาพบว่าอาสาสมัครกลุ่มที่ใส่นิ้วโป้งจักรกลที่ใช้งานได้จริงนั้น ทั้งหมดไม่เพียงแต่จะสามารถใช้นิ้วที่เพิ่มมาได้อย่างเป็นธรรมชาติในเวลาไม่กี่วันเท่านั้น

แต่คลื่นสมองส่วน เซนเซอร์รี่มอเตอร์คอร์เท็กซ์ (Sensorimotor cortex) ซึ่งควบคุมการเคลื่อนไหวของนิ้วมืออาสาสมัครยังมีความเปลี่ยนแปลงสำคัญๆ หลายจุด ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการปรับตัวต่ออวัยวะที่เพิ่มขึ้นมาของสมองด้วย

และที่สำคัญความเปลี่ยนแปลงดังกล่าว ยังสามารถถูกปรับตัวกลับจนลดลงหรือหายไปได้ ในกรณีที่อาสาสมัครไม่ได้ใช้งานนิ้วโป้งจักรกลเป็นเวลานานหลังจากการทดลองเลยด้วย

 

วิดีโอตัวอย่างการใช้งานของนิ้วโป้งจักรกล

 

“การดัดแปลงร่างกาย ในปัจจุบันถือเป็นศาสตร์ที่กำลังเติบโตโดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อขยายความสามารถทางกายภาพของเรา

แต่น่าเสียดายที่เรายัง ขาดความเข้าใจที่ชัดเจนว่าสมองของเราสามารถปรับตัวเข้ากับมันได้อย่างไร

ดังนั้น ด้วยนิ้วโป้งจักรกลอันนี้ เราจึงพยายามเป็นอย่างมากที่จะตอบคำถามสำคัญๆ อย่าง

สมองของมนุษย์สามารถรองรับอวัยวะที่เพิ่มมาได้หรือไม่
และเทคโนโลยีใหม่ๆ พวกนี้จะส่งผลต่อสมองของเราอย่างไรบ้าง”

 

 

นี่นับว่าเป็นอะไรที่น่าสนใจเลย เพราะมันช่วยบอกเราได้เป็นอย่างดีว่าแม้สมองของเราอาจจะต้องปรับตัวอยู่บ้าง

แต่สมองของมนุษย์ก็อาจมีความสามารถมากพอที่จะรองรับเทคโนโลยีติดตั้ง อวัยวะเสริมให้กับร่างกายทั้งแบบชั่วคราวและถาวรมากกว่าที่เราเคยคิดไว้

 

 

และจากผลการทดลองนี้ มันก็ไม่แน่เหมือนกันว่าเราอาจจะมีโอกาสได้เห็น

“การต่ออวัยวะเสริมกับร่างกายมนุษย์”

กลายเป็นเทคโนโลยีที่ถูกนำมาใช้งานจริงๆ ในอนาคตอันใกล้นี้ก็เป็นได้

 

ที่มา iflscience และ sciencemag

บีทีเอสไม่มีแผ่ว ขึ้นจอทวงหนี้รัฐบาลต่อเนื่อง 3 หมื่นล้านบาท กราบวิงวอนนายกแก้ปัญหาด้วย

$
0
0

หลังจากที่มีการเปิดเผยถึงเรื่องหนี้สินที่ทางรัฐบาลและ กทม. ยังคงติดค้างกับทางรถไฟฟ้าบีทีเอสไปเมื่อเดือนเมษายน 2564 ถึงกับต้องมาโพสต์คลิปชี้แจงเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นจากฝั่งบีทีเอส โดยนาย สุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ เป็นผู้ออกมาส่งจดหมายเปิดผนึกถึงผู้โดยสาร

 

 

ท่ามกลางโลกออนไลน์ตั้งแต่ช่วงวันที่ 20 พฤษภาคม จนถึงวันนี้ 21 พฤษภาคม 2561 มีการแชร์ภาพบนรถไฟฟ้าบีทีเอสที่ขึ้นจอระบุเป็นข้อความทวงหนี้รัฐบาลตั้งแต่ที่มีการพูดถึงเรื่องนี้ไปเมื่อต้นเดือนเมษายน

 

 

ข้อความดังกล่าวระบุเป็นสองช่วงว่า “ตามที่กรุงเทพมหานคร และบริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด ค้างชำระค่าจ้างเดินรถ กว่า 10,000 ล้านบาท ค่าติดตั้งระบบไฟฟ้า และเครื่องกลอีก 20,000 ล้านบาท สำหรับการให้บริการเดินรถในส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าสายสีเขียวของกรุงเทพมหานคร”

 

 

“บริษัทฯ ได้พยายามทำทุกวิถีทาง เพื่อให้สามารถบริการเดินรถให้กับประชาชนได้ แม้จะไม่ได้ชำระค่าจ้าง ทั้งยังจะมีค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นอีกในอนาคต พวกเราขอ…กราบวิงวอน ฯพณฯ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้โปรด…แก้ไขปัญหานี้ด้วย”

การทวงหนี้ของรถไฟฟ้าบีทีเอสจำนวน 30,370 ล้านบาทนี้ เป็นค่าระบบและค่าจ้างเดินรถสายสีเขียว ส่วนต่อขยายหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต และแบริ่ง-สมุทรปราการ ตามที่เคยเอ่ยถึงไปในคลิปจดหมายเปิดผนึกถึงผู้โดยสาร

และระยะเวลาได้ผ่านมาเกือบ 2 เดือนแล้ว ไม่มีข่าวรายงานปรากฎความเคลื่อนไหวของรัฐบาลที่เกี่ยวกับเรื่องนี้แต่อย่างใด

 

.

ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติยืนยัน จับยาไอซ์ในออสเตรเลีย เอาผิดในไทยได้

$
0
0

จากกรณีที่มีสื่อออสเตรเลียรายงานเกี่ยวกับการสกัดจับยาไอซ์ ที่ลักลอบนำเข้ามาแฝงกับเครื่องใช้ไฟฟ้า โดยเรือขนส่งสินค้าที่มาจากประเทศไทย จำนวน 300 กิโลกรัม มูลค่า 2,400 ล้านบาทเมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม

ในวันที่ 20 พฤษภาคม 2564 พลตำรวจเอกสุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ระบุว่าในอดีตเคยดำเนินคดีกลุ่มเครือข่ายยาเสพติดที่เกี่ยวข้องในประเทศออสเตรเลีย มีช่องทางการสืบสวนและกระบวนการส่งผู้ร้ายข้ามแดนของอัยการที่ใช้ได้

แม้จะมีปัญหาด้านกฎหมายระหว่างประเทศอยู่บ้าง แต่ยืนยันว่าในส่วนของการสืบสวนขยายผล ตำรวจไทยสามารถดำเนินการได้ตามกรอบกฎหมายไทยเท่าที่สามารถดำเนินการได้อย่างเต็มที่

ความคืบหน้าเกี่ยวกับเรื่องนี้ พลตำรวจโทมนตรี ยิ้มแย้ม ผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด กล่าวว่าตำรวจออสเตรเลียกำลังอยู่ในระหว่างการขยายผลจากผู้รับปลายทางในประเทศออสเตรเลีย ส่วนตำรวจไทยได้ประสานข้อมูลกับฝั่งตำรวจออสเตรเลีย

โดยยอมรับว่าเป็นเครือข่ายรายใหญ่ตามข้อมูลที่ตำรวจปราบปรามยาเสพติดมีอยู่ เพราะสามารถนำยาเสพติดลักลอบผ่านศุลกากรและขนส่งทางเรือออกนอกประเทศได้

ส่วนข้อมูลอื่นๆ ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ แต่ยืนยันว่าแม้ไม่มียาเสพติดของกลางเป็นหลักฐานในไทย ก็สามารถดำเนินคดีได้อย่างแน่นอน

 

 

คลิปข่าวจาก THAICRIME

 

เรียบเรียงโดย #เหมียวเลเซอร์

 

ที่มา: https://mgronline.com/crime/detail/9640000048624
https://one31.net/news/detail/46363

“พี่ติ๊ก”ออกโรง หลังภรรยาโดนนำภาพไปใช้ใน “ดาราสนับสนุน Sinovac”ทั้งที่เจ้าตัวไม่รู้เรื่อง

$
0
0

ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา มีกระแสข่าวดาราเซเลบหลายคนทยอยฉีดวัคซีนโควิด-19 จนกลายเป็นกระแสดราม่าเบาๆ ตามมาบนโลกออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็นประเด็นการได้ลัดคิวฉีดก่อน หรือประเด็นการตั้งข้อสงสัยรับเงิน PR จากทางรัฐบาลก็ตาม

 

จนกระทั่งล่าสุด มีแอคเคาท์หนึ่งบนโลกออนไลน์ ทำการรวบรวมรายชื่อดาราคนดังที่ออกโรงสนับสนุนวัคซีนซิโนแวค โดยแอคเคาท์ดังกล่าวระบุว่า ดาราคนดังเหล่านี้มีท่าทีสนับสนุน โดยที่ไม่ได้ชี้แจงถึงผลข้างเคียงและประสิทธิภาพ

ภาพดังกล่าว กลายเป็นกระดังบนโลกออนไลน์ไปในทันที มีทั้งเสียงวิพากษ์วิจารณ์ดารากลุ่มดังกล่าวจากฝ่ายที่ไม่เห็นด้วย บางส่วนก็บอกว่าจะไม่สนับสนุนดาราเหล่านั้น

ในขณะที่บางส่วน ก็มองว่าการที่ดาราไปฉีดวัคซีน และออกมารณรงค์ให้คนฉีด ก็เป็นสิทธิ์ของพวกเขาที่จะทำได้เช่นกัน

 

ภาพที่เป็นประเด็นดราม่าขึ้นมา…

 

เรื่องนี้เป็นประเด็นขึ้นมา หลังจากที่คุณ “พีช สิตมน” ภรรยาของพี่ติ๊ก เจษฎาภรณ์ เซเลบคนดังมีภาพติดเข้าไปด้วย เนื่องจากทางผู้จัดทำมองว่ามีความเกี่ยวข้องกับการสนับสนุน

เนื่องจากเธอไปคอมเมนต์ในโพสต์การเชิญชวนฉีดวัคซีน ของ “ชมพู่ อารยา” จึงถูกนำมาติดในลิสต์ดังกล่าว

 

เจ้าตัวก็เลยเข้ามาแย้ง และขอให้นำภาพของเธอออก เพราะเธอไม่เคยแสดงความเห็นสนับสนุนหรือต่อต้านวัคซีนตัวใดตัวหนึ่ง และส่วนตัวเธอเองก็ยังไม่เคยฉีดด้วย

 

พร้อมกับยืนยันว่า การไปกดไลก์หรือส่ง Emoji เป็นเรื่องที่เธอทำอยู่เป็นประจำอยู่แล้ว

 

อย่างไรก็ตาม หลังจากมีการแย้งไปเมื่อวาน ปรากฏว่าภาพของเธอยังไม่ได้รับการนำออกไป ซึ่งนั่นน่าจะสร้างความไม่สบายใจให้กับทั้งเธอ และสามีเป็นอย่างมาก

ในวันนี้ ทางฝั่งพี่ติ๊ก ได้ออกมาโพสต์สาธารณะเพื่อเรียกร้องให้นำเสนอข้อมูลที่ถูกต้อง พร้อมกับเปลี่ยนแปลงสังคมให้ดีขึ้นอย่างสร้างสรรค์ โดยมีใจความว่า…

 

“การแสดงจุดยืนโดยมีความเชื่อหนึ่ง เพื่อต่อต้านอีกความเชื่อหนึ่ง ควรจะนำซึ่งข้อมูลเหตุผลอย่างสุจริต

หากอุดมการณ์คือ ต้องการเปลี่ยนแปลงสังคมให้ดีขึ้นอย่างสร้างสรรค์ เราจะไม่ใช้สิทธิส่วนบุคคลของใครมาสร้าง Fake news เพื่อทำลายล้างใคร

รูปที่ถูกสร้างในโพสต์ อาจจะนำมาซึ่งความเข้าใจผิดหากไม่ได้ตรวจสอบให้ดี นั่นแปลว่าผู้ที่สร้างสื่อนี้ควรรับผิดชอบหากมันไม่ใช่ความจริง

ได้โปรดเคาระในสิทธิ์ คุณพีชไม่ควรถูกนำมาใช้เป็นเครื่องมือของใคร คุณสามารถโน้มน้าวให้คนมาเชื่อในอุดมการณ์ได้แต่ต้องเป็นข้อเท็จจริง ควรถามหากไม่แน่ใจ 

สังคมจะน่าอยู่โดยไม่ต้องสร้างวาทกรรมเท็จ เพื่อความถูกต้องและชอบธรรม ให้นำข้อมูลวัคซีนมาชี้แจง แล้วให้คนตัดสินเองว่าเข้าจะเลือกแบบไหน

ต้องไม่สร้างความเกลียดชัง ดั่งความตั้งใจทวิตเตอร์คุณว่าจะสร้างสรรค์คอนเทนต์คุณภาพ 

กรุณาลบคุณพีชออกจากโพสต์โดยไม่มีเงื่อนไขเพื่อแสดงความรับผิดชอบ 

การต่อสู้เพื่อความถูกต้อง ก็ต้องอยู่บนพื้นฐานของความถูกต้องด้วยเช่นกันครับ นี่คือหลักการที่คุณต้องการด้วยเช่นกัน ถูกต้องไหมครับ

ขอบคุณมากนะครับ”

 

 

หลังจากพี่ติ๊กออกมาเรียกร้องดังกล่าว ทีมงานตรวจสอบพบว่าต้นทางได้มีการลบรูปภาพนั้นออกไปแล้ว

อย่างไรก็ตาม ชาวเน็ตก็หวังว่าจะมีคำขอโทษตามมาอีกด้วย…

 

เรียบเรียง #ประธานเหมียว


หนุ่มไลฟ์สดทำลายสถิติโลก “ต่อจังก้า”ใช้ฐานแค่ 1 ชิ้น เพื่อรองรับตัวต่อรวมทั้งหมด 1,512 ชิ้น!!

$
0
0

เชื่อว่าเพื่อนๆ หลายคนน่าจะเคยเล่นเกม ‘จังก้า’ (Jenga) กันมาก่อน หรือที่ในไทยอาจเรียกกันว่า “เกมตึกถล่ม” เป็นเกมที่มีตัวต่อไม้เรียงไว้เป็นชั้นๆ แล้วเราต้องค่อยๆ ดึงออกมาทีละชิ้น โดยไม่ให้มันถล่มลงมา

 

ลักษณะของเกมจังก้า

 

แต่สำหรับชายคนนี้ เขากลับทำให้มันเหนือขึ้นไปอีกขั้น เพราะแทนที่เขาจะดึงมันออกมา กลับกลายเป็นว่าเขาค่อยๆ วางเรียงมันขึ้นไปเป็นรูปทรงต่างๆ แทน จนล่าสุดเขาสามารถทำลายสถิติโลกได้อย่างน่าเหลือเชื่อ?!

Kelvin หรือที่บางคนอาจรู้จักในชื่อ Menga Man เขาคือชายผู้ชื่นชอบตัวต่อจังก้า และมักจะท้าทายตัวเองด้วยการต่อมันขึ้นไปเรื่อยๆ ให้ได้มากที่สุด โดยมีฐานรองรับเอาไว้แค่ชิ้นเดียว

 

เราลองไปชมภาพตัวอย่างผลงานของเขาดู

.

.

.

 

โดยเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2021 เขาได้สร้างสถิติโลกด้วยการต่อตัวต่อจังก้าทั้งหมด 1,150 ชิ้น โดยมีแค่ 1 ชิ้นเป็นฐานรองรับความสมดุลของตัวต่อทั้งหมดเอาไว้ ซึ่งถือว่าเป็นอะไรที่น่าทึ่งเอามากๆ

 

ภาพตัวต่อจังก้า 1,150 ชิ้น โดยใช้แค่ 1 ชิ้นเป็นฐาน.. อะเมซิ่ง!!

 

ตอนนั้นว่ายากแล้ว แต่ Kelvin ก็ยังไม่หยุดเพียงแค่นั้น เพราะล่าสุดเมื่อช่วงกลางเดือนพฤษภาคม 2021 ที่ผ่านมา เขาก็ได้ทำลายสถิติของตัวเองและสร้างสถิติโลกขึ้นมาใหม่ จากการต่อตัวต่อขึ้นไปได้ทั้งหมด 1,512 ชิ้น

 

และแน่นอนว่าเขายังคงใช้แค่ 1 ชิ้นเป็นฐานรองรับ

 

การทำลายสถิติโลกของเขานั้นทำให้ผู้คนต่างยกให้ชายคนนี้เป็น “ราชาจังก้า” ผู้ทำให้เกมตัวต่อที่เรารู้จักกันดูเหนือขึ้นไปอีกขั้น และการไลฟ์สดระหว่างการสร้างสถิติโลกของเขานั้นก็ทำเอาหลายๆ คนต่างลุ้นระทึก

 

เราลองไปชมคลิปที่เขาทำลายสถิติในครั้งนี้กันเลย (12 พฤษภาคม 2021)

 

นอกจากนี้เพื่อนๆ ยังสามารถเข้าไปติดตามผลงานอันน่าทึ่งทั้งหมดของเขาได้ที่อินสตาแกรม menga_tv และช่องยูทูบ Menga_TV

 

 

เรียบเรียงโดย #เหมียวตะปู

ที่มา: MyModernMet

รู้จัก “Massospora cicadina”เชื้อราหลอนประสาท ที่ทำให้จักจั่นคึกคัก ร่วมเพศจนบั้นท้ายขาด

$
0
0

มันเป็นเรื่องที่เราทราบกันว่าในช่วงฤดูร้อนของหลายๆ ประเทศเช่นนี้ ถือเป็นช่วงที่แมลงอย่างจักจั่นจะออกมาใช้เวลาช่วงโตเต็มวัยไปกับการผสมพันธุ์

อย่างไรก็ตามในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ช่วงเวลานี้ กลับถือว่าเป็นช่วงที่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่สำหรับจักจั่น โดยเฉพาะในสหรัฐอเมริกาไปเสียแล้ว

นั่นเพราะในปัจจุบันดุเหมือนว่าจักจั่นที่นั่น จะกำลังต้องพบกับปัญหาเชื้อราประหลาดที่ติดต่อทางการผสมพันธุ์ ที่ทำให้จักจั่นมั่วเซ็กซ์จนถึงขั้นบั้นท้ายขาดอยู่นั่นเอง

 

เหล่าจักจั่นที่ติดเชื้อรา Massopora

 

เจ้าเชื้อราที่ว่านี้มีชื่อว่า Massospora cicadina หรือเรียกสั้นๆ ว่า Massospora เชื้อราประหลาดที่ หากไปในร่างของจักจั่นได้ มันจะเปลี่ยนนิสัยของจักจั่นให้ดูร่าเริง กระฉับกระเฉง และพร้อมที่จะผสมพันธุ์อยู่ตลอดเวลา

ส่งผลให้หลายๆ ครั้งจักจั่นตัวผู้ที่ติดเชื้อสองตัวก็ถึงขั้นที่จะร่วมเพศกันเอง หรือทำตัวเลียนแบบตัวเมียเพื่อให้จักจั่นตัวอื่นๆ เขามาผสมพันธุ์ด้วยเพื่อแพร่เชื้อราต่อไป

 

 

ถึงขนาดที่ว่าเมื่อจักจั่นผสมพันธุ์กันบางครั้งบั้นท้ายของจักจั่นที่ติดเชื้อจะหลุดออกไปติดกับจักจั่นที่ผสมพันธุ์ด้วย แต่ถึงอย่างนั้นพวกมันก็ยังดึงดันจะผสมพันธุ์ต่อไป แม้ตัวจะขาดก็ตาม

เท่านั้นยังไม่พอเมื่อเจ้าจักจั่นติดเชื้อราตัวนี้แล้วตัวขาด ในบางครั้งพวกมันก็จะออกบินเพื่อปล่อย “ชิ้นส่วนของร่างกาย” ลงมาจากท้องฟ้า เพื่อที่จะให้เชื้อราสามารถแพร่กระจายไปยังเหยื่อตัวอื่นๆ ในสภาพไม่ต่างอะไรกับซอมบี้อีกด้วย เรียกได้ว่าเป็นโรคที่น่ากลัวแบบสุดๆ เลย

 

สภาพจักจั่นที่คาดว่าตายหลังจากออกบินครั้งสุดท้ายเพื่อโปรยชิ้นส่วนของร่างกายที่ปนเปื้อนเชื้อราลงมาจากฟ้า

 

Massospora cicadina  นั้นถูกค้นพบในปี 1850 อย่างไรก็ตามการศึกษาโรคนี้กลับเป็นไปได้ค่อนข้างช้า เนื่องจากการหาตัวอย่างจักจั่นติดเชื้อในอดีตทำได้ค่อนข้างยาก

โดยจนถึงปัจจุบันเราสงสัยกันว่า เจ้าเชื้อราดังกล่าวน่าจะทำให้จักจั่นหลอนเช่นนี้ด้วยสารไซโลไซบิน ที่พบในเห็ดขี้ควาย หรือไม่ก็สารแอมเฟตามีน ที่พบในยาหลอนประสาทและยาเสพติดก็ได้

นี่นับว่าเป็นการค้นพบที่น่าสนใจเลยทีเดียวเพราะไม่ว่าจะเป็นไซโลไซบินแอมเฟตามีน สารเหล่านี้ก็ล้วนแต่เป็นสารเคมีที่เรารู้จักกันดีและมีผลร้ายแรงกับมนุษย์ทั้งนั้น

 

สภาพจักจั่นที่ไม่เหลือส่วนปั้นท้ายแล้วแต่ก็ยังพยายามผสมพันธุ์

 

แน่นอนว่าชื่อสารที่ออกมาคุ้นเคยสุดๆ แบบนี้ มันก็ย่อมสร้างความหวาดกลัวในกลุ่มคนทั่วไปว่า เชื้อราดังกล่าวอาจจะข้ามมาติดในมนุษย์ได้เป็นอย่างดี

ถึงอย่างนั้นก็ตามก่อนที่เราจะกลัวกันมากเกินไปทางนักวิทยาศาสตร์ก็ระบุเอาไว้ด้วยว่า การค้นพบสารเสพติดในตัวแมลง ถือว่าเป็นเรื่องที่สามารถเห็นได้ค่อนข้างบ่อย และไม่ใช่อะไรที่น่าแปลกใจนัก

กลับกันเรื่องที่เราต้องกลัวจริงๆ เกี่ยวกับเชื้อราตัวนี้ก็ควรจะเป็นจำนวนประชากรจักจั่นที่อาจจะลดลงในอนาคตต่างหาก

 

ที่มา iflscience, sciencedaily

ตำรวจเตือนผู้ชายจีน อย่าให้ความ ‘ง’ครอบงำ แก๊งสาวปลอมหลอกลวงก็ผู้ชายคือกัน

$
0
0

ทุกวันนี้ข่าวคราวเกี่ยวกับการหลอกลวงให้โอนเงินด้วยเสน่ห์หาต่างๆ ก็มีให้เห็นกันประจำ โดยอาศัยช่องทางการแต่งภาพผ่านแอปฯ ต่างๆ ที่ทำได้ง่ายรวดเร็ว ปลอมบัญชีผู้ใช้ก็ง่าย สวมรอยเป็นคนนู้นคนนี้ ล่าสุดนี้ แก๊งลงทุนปลอมเป็นผู้หญิงสาวสวยเพื่อหลอกเอาเงินก็มี

 

 

ช่วงนี้ตำรวจจีนได้เตือนให้เหล่าชายหนุ่มเลือดร้อนทั้งหลาย ที่กำลังปล่อยตัวปล่อยกายปล่อยใจไปกับวิดีโอแชทนู๊ด ให้ระวังเอาไว้ว่าอาจตกเป็นเหยื่อของพวกแก๊งต้มตุ๋นหลอกลวงเอาเงิน

จากการรายงานของเว็บไซต์ South China Morning Post ระบุว่าบนเวย์ป๋อมีการเอ่ยถึงวิดีโอคลิปหนึ่งที่ปรากฎเป็นภาพของ ‘สาวสวยปลอม’ ในคลิปนั้นเผยให้เห็นว่าสาวนุ่งน้อยห่มน้อยที่อยู่ตรงหน้า ค่อยๆ ถอดส่วนเนื้อหนังปลอมออก ไม่ว่าจะเป็นบริเวณลำตัว-หน้าอก จนถึงใบหน้า

 

 

“คุณคิดว่าสิ่งที่คิดอยู่เป็นไปอย่างที่คิดไหม?” คำถามนี้เป็นคำถามจากคลิปวิดีโอที่เจ้าหน้าที่ตำรวจหญิงในมณฑลเจ้อเจียงได้โพสต์เตือนเอาไว้เป็นอุทาหรณ์

“หนุ่มๆ ทั้งหลาย อย่าไปแชทวิดีโอนู๊ดกับใครล่ะ นั่นมันพวกต้มตุ๋นนะ”

 

นอกจากนั้นแล้วก็ยังมีภาพของบุคคลที่ถูกกล่าวหาว่ากระทำการต้มตุ๋นเหยื่อแนบมาด้วย ซึ่งปรากฎตัวอยู่ในคลิปวิดีโออื่นๆ อีกหลายคลิป

 

สื่อนอกรายงานเพิ่มเติมว่า แก๊งนักต้มตุ๋นจะใช้วิธีการปลอมตัวเช่นนี้เพื่อหลอกล่อให้เหยื่อที่เป็นผู้ชายยอมเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งสามารถนำไปใช้สวมรอยได้

บางคนก็ถูกหลอกล่อให้อัดคลิปวิดีโอเปลือยของตัวเองส่งไปให้โจร คราวนี้ก็ถูกนำมาใช้ข่มขู่ว่าจะส่งคลิปให้ครอบครัวหรือเพื่อนเหยื่อเพื่อแบล็คเมล์ หากไม่ทำการโอนเงินเป็นค่าปิดปาก

 

 

คดีประเภทนี้เริ่มเกิดขึ้นบ่อยครั้งมากขึ้นในประเทศจีนระหว่างช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 เนื่องจากผู้ชายหลายคนตกอยู่ในอาการเหงาจากการล็อคดาวน์และแยกตัวอยู่คนเดียว

 

 

กรมรักษาความปลอดภัยสาธารณะของมณฑลกวางตุ้ง เปิดเผยว่ามีรายงานแจ้งคดีแบล็คเมล์มากกว่า 9,200 ครั้งเกี่ยวข้องกับวิดีโอแชทนู๊ดแบบนี้ และในจำนวนนี้เป็นเพียงแค่ครึ่งแรกของปี 2020 เท่านั้น

 

ที่มา: scmp, dailystar

Free Fire คว้าชัย ใส่เต็ม พร้อมร่วมเชียร์ทีมไทย คว้าแชมป์ระดับโลก 62 ล้าน!!

$
0
0

เตรียมตัวให้พร้อม กับ 7 กิจกรรมพิเศษจาก Garena Free Fire พร้อมร่วมเชียร์ทีมไทยคว้าแชมป์ระดับโลก!!

ส่งท้ายเดือนพฤษภาคม กับการแข่งขันสุดยิ่งใหญ่ FREE FIRE WORLD SERIES 2021: สิงคโปร์ เงินรางวัลมากกว่า 62 ล้านบาท สูงที่สุดในประวัติศาสตร์ของเกมนี้

อย่าลืมมาร่วมเชียร์ 2 ตัวแทนทีมไทย Phoenix Force และ Attack All Around ในการแข่งขันทั้งรอบ Play-ins ในวันที่ 28 พฤษภาคม และรอบ Finals วันที่ 30 พฤษภาคม สองทุ่มเป็นต้นไป

นอกจากนั้นแล้ว ยังมีกิจกรรมสุดพิเศษ ที่เข้าร่วมกันได้ตั้งแต่ 21 พฤษภาคม – 6 มิถุนายน ใส่เต็ม จัดหนักแบบเน้น ๆ ถึง 7 กิจกรรม

ทั้งเช็คอินรับไอเท็มพิเศษ ตัวละครใหม่แอนดรูว์ สะสมโทเคนและรางวัล เลือกเชียร์ทีมที่ชอบ ชวนเพื่อนมาเข้าเล่นเกม รวมไปถึงการเอาตัวรอดในเกมให้นานที่สุด

ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่: https://ff.garena.com/news/article/th/441/

 

 

#FreeFireใส่เต็ม #FreeFireTH #FFTH

สาวเผยคลิป “ดักหนูนับพันวิ่งลงถังน้ำ”สู้วิกฤตหนูระบาด – PETA วอนอย่าทารุณสัตว์ ให้จับไปปล่อย

$
0
0

ในเวลานี้ เกษตรกรจำนวนมากในรัฐนิวเซาท์เวลส์ ประเทศออสเตรเลีย ต่างต้องเผชิญกับ ‘วิกฤตหนูระบาด’ ที่ถือว่าเป็นหนึ่งในครั้งที่เลวร้ายที่สุด เมื่อประชากรหนูจำนวนนับไม่ถ้วนได้ออกมาทำลายพืชผลทางการเกษตร

สถานการณ์ดังกล่าว ส่งผลให้เหล่าเกษตรกรและประชาชนต่างพากันไปซื้อเครื่องมือดักจับหนูกันซะจนตอนนี้สินค้าขาดตลาดไปแล้ว ทำให้หลายๆ คนต้องคิดหาวิธีดักหนูกันด้วยตัวเอง

 

และนี่ก็คือหนึ่งในวิธีดักหนูแบบ DIY ที่กำลังถูกพูดถึงอย่างมาก

 

Sarah Pye เกษตรกรในเมืองดับโบ รัฐนิวเซาท์เวลส์ เธอได้ออกมาโพสต์คลิปวิธีการดักหนูที่เธอคิดขึ้นมา เพื่อต่อสู้กับวิกฤตหนูระบาดครั้งนี้ และดูเหมือนว่ามันจะได้ผลอย่างมาก

วิธีการของเธอนั้นก็คือการกั้นเส้นทางให้หนูวิ่งออกมาได้ทางเดียว เมื่อหนูวิ่งออกมาจากคอนเทนเนอร์ที่ใช้เก็บธัญพืชของเธอแล้ว พวกมันก็จะตกลงไปในถังน้ำขนาดใหญ่ ทำให้พวกมันจมน้ำตายในที่สุด

ฟังดูเหมือนง่าย แต่กลับได้ผลอย่างมาก เพราะจากคลิปที่เธอโพสต์นั้นเผยให้เห็นว่าหนูนับพันวิ่งกันยั้วเยี้ยไปตามทางที่เธอสร้างเอาไว้ ก่อนจะตกลงไปในถังน้ำที่เธอวางเตรียมไว้แต่แรก

 

*คลิปอาจจะดูน่าขนลุกสำหรับบางคน*

 

คลิปวิธีการดักหนูของเธอ (18 พฤษภาคม 2021)

 

คลิปดังกล่าวได้ทำเอาหลายๆ คนต่างรู้สึกขนลุกขนชันให้กับความยั้วเยี้ยของหนูจำนวนมาก ขณะเดียวกันหลายๆ คนก็เข้ามาชื่นชมในไอเดียการดักหนูของเธอ

นอกจากวิธีการข้างต้นแล้ว ก่อนหน้านี้ก็เคยมีคนได้เผยถึงอีกหนึ่งวิธีที่น่าสนใจ นั่นคือการทาเนยเอาไว้บนฝาถังขยะที่หมุนเปิด-ปิดได้ พอหนูขึ้นไปจะกินเนย พวกมันก็จะตกลงไปในถังขยะที่ใส่น้ำเตรียมไว้ และจมน้ำตายไปในที่สุด

 

ภาพวิธีการดังกล่าว

 

ในขณะที่วิกฤตหนูระบาดกำลังสร้างผลกระทบอย่างหนักแก่ประชาชนและเกษตรกรในรัฐนิวเซาท์เวลส์ ทางองค์กรพิทักษ์สัตว์ PETA ก็ได้ออกมาเรียกร้องให้ผู้คนควรจับหนูอย่างมีมนุษยธรรม โดยกล่าวว่า..

“เกษตรกรควรหลีกเลี่ยงการกำจัดหนูด้วยการวางยา หรือวิธีการที่ทำให้สัตว์ต้องทุกข์ทรมาน แต่ใช้กับดักอย่างมีมนุษยธรรม จับอย่างละมุนละม่อมและนำไปปล่อยโดยไม่ทำอันตรายแก่สัตว์”

 

ผู้คนจำนวนมากต่างไม่เห็นด้วยกับคำพูดดังกล่าว

 

ประชาชนในรัฐนิวเซาท์เวลส์ต่างไม่เห็นด้วยกับคำพูดขององค์กร PETA เพราะมองว่าในปัจจุบัน ประชากรหนูนั้นมีเยอะมากจนเกินไป และการกำจัดคือหนทางจำเป็นต่อการสู้วิกฤตที่เกิดขึ้นนี้

ทางรัฐเองก็ได้ออกมาประกาศว่า เหล่าเกษตรกรต่างได้รับผลกระทบกันอย่างถ้วนหน้า พวกเขาแต่ละคนได้รับความเสียหายจากการถูกหนูทำลายพืชผล คิดเป็นมูลค่าประมาณ 50,000 – 150,000 ดอลลาร์ออสเตรเลีย (ราว 1.2 – 3.6 ล้านบาท)

 

รวมถึงเครื่องจักรต่างๆ ก็ได้รับความเสียหายไปเป็นจำนวนมาก

 

ทั้งนี้ จากรายงานมีการคาดการณ์ว่า วิกฤตหนูระบาดนี้อาจลุกลามไปยังเมืองหรือรัฐอื่นๆ หลังสังเกตเห็นว่าเริ่มมีหนูชุกชุมในหลายพื้นที่ ซึ่งทางหน่วยงานรัฐจะเร่งคิดช่วยหาทางแก้ไขและป้องกันปัญหานี้ต่อไป

 

เรียบเรียงโดย #เหมียวตะปู

ที่มา: 2GB , SleekGist , DailyMail

หนุ่มใหญ่วัย 65 เผย กลับมาคึกทั้งคืน หลังฉีดวัคซีนแอสตร้าฯ ทั้งที่เคยหมดอารมณ์ไปแล้ว

$
0
0

กลายเป็นอีกหนึ่งข่าวแปลกๆ จากช่วงเวลาที่ผู้คนหลายกลุ่มตัดสินใจเดินทางไปฉีดวัคซีนโควิด-19 ไปเสียแล้ว

เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2021 สำนักชาวหลายสำนักในประเทศไทยได้ออกมารายงานเรื่องราวของหนุ่มใหญ่วัย 65 ปีรายหนึ่ง

ซึ่งออกมาอ้างว่าตนนั้น สามารถกลับมามีอารมณ์คึกคักอีกครั้งจนภรรยาต้องหนีไปล้างจาน หลังจากฉีดวัคซีน ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้ ตนนั้นหมดอารมณ์ทางเพศไปแล้วแท้ๆ

 

 

เรื่องราวในครั้งนี้ถูกรายงานว่า เกิดขึ้นในจังหวัดชลบุรี หลังจากที่ชายวัย 65 ไม่ระบุนาม ได้รับการประสานงานกับทางโรงพยาบาล ให้ไปเข้ารับการฉีดวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า เนื่องจากอายุมากแล้ว เมื่อประมาณปลายเดือนเมษายน

โดยเจ้าตัวได้เล่าว่าหลังรับวัคซีนเขามีอาการครั่นเนื้อครั่นตัวเล็กน้อย ก่อนที่ต่อมาจะเริ่มพบอาการผิดปกติ

จากที่ตัวเองเคยเป็นคนทำงานทั้งวัน ตกดึกหัวถึงหมอนก็หลับเป็นตาย พอหลังรับวัคซีนตนกลับมีอาการคึกทั้งคืนโดนภรรยาไม่ได้ เกิดอวัยวะเพศแข็งตัวและมีอารมณ์ตลอด

เรื่องที่เกิดขึ้นนี้ แม้โดยรวมจะทำให้ตนมีสุขภาพที่ดีขึ้นแต่ในขณะเดียวกันก็สร้างความลำบากใจให้ภรรยาวัย 50 ของเขาไม่ใช่น้อย

เพราะจากที่สามีเคยนอนเหมือนท่อนไม้ ช่วงหลังๆ มาเขากับมีอารมณ์ทางเพศมาก กวนเธอไม่หยุด จนบางครั้งตนก็ถึงขั้นต้องหนีไปทำเป็นล้างจานเลย

 

 

แน่นอนว่าด้วยช่วงเวลาที่พอดีกันเช่นนี้ มันจึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่หลายๆ คน จะตั้งข้อสงสัยว่าอาการที่เกิดขึ้นอาจจะมีความเกี่ยวข้องกับการฉีดวัคซีนก็เป็นได้

อย่างไรก็ตามเราก็มีฝั่งนายแพทย์ที่ออกมาบอกว่าเรื่องที่เกิดขึ้นนี้เป็นเพียงความเชื่อส่วนบุคคลเช่นกัน

นั่นเพราะแม้ว่าการติดโรคโควิด-19 นั้นอาจจะส่งผลต่อสมรรถภาพทางเพศได้จริงๆ ก็ตาม (เนื่องจากโควิด อาจทำให้เกิดลิ่มเลือดไปอุดตันเส้นเลือดที่ไปเลี้ยงอวัยวะเพศ)

แต่ในปัจจุบันเราก็ไม่มีการวิจัยใดๆ ที่บอกว่าวัคซีนโรคโควิด-19 มีผลต่อสมรรถภาพทางเพศ ทั้งในด้านที่มีคนออกมาอ้างว่าทำให้อวัยวะเพศใหญ่ขึ้น และในด้านที่บอกว่าวัคซีนไปลดปริมาณอสุจิ

 

 

แต่แม้ว่านี่จะเป็น ข่าวที่ควรจะต้องใช้วิจารณญาณในการรับชมก็ตาม เราก็ปฏิเสธไม่ได้เลยจริงๆ ว่าข่าวที่ออกมานี้มันทั้งถือว่าแปลกและน่าสนใจใช้ได้เลยจริงๆ

 

ที่มา matichon และเพจเฟซบุ๊ก Sarikahappymen

การประกวดภาพถ่าย “สัตว์โลกสุดฮา”ชิงแชมป์โลก กลับมาอีกครั้ง และปีนี้ก็ไม่มีแผ่วเช่นเคย..

$
0
0

ถ้าใครยังจำกันได้ ในปี 2020 และอีกก่อนหน้านั้นทุกๆ ปีที่ผ่านมา  มีการจัดประกวด Comedy Wildlife Photography Awards หรือที่เรียกว่าภาพถ่ายสัตว์โลกสุดฮา สร้างเสียงหัวเราะ รอยยิ้มให้กับคนทั่วโลก

 

ถ้าใครนึกไม่ออก ลองดูภาพผู้ชนะจากปีที่แล้วนี่สิ.. จำกันได้แล้วสินะ

OLYMPUS DIGITAL CAMERA

 

มาถึงในปี 2021 นี้ การประกวดกลับมาอีกครั้ง พร้อมกับตัวอย่างของภาพที่ถูกส่งเข้ามาประกวด ในปีนี้มีภาพอะไรน่าสนใจบ้าง มาดูตัวอย่างคร่าวๆ กันเลย…

 

เจ้านกอินทรีกำลังจะล่าแพรี่ด็อก แต่อยู่ดีๆ มันก็กระโดดใส่นักล่า พร้อมกับแฮ่ใสอย่างจัง

แถมสุดท้ายตัวนี้มันยังรอด ไม่ตกเป็นเหยื่ออีกด้วย

โดยคุณ Arthur Trevino

 

นกหน้าโกรธ ที่ไม่รู้เหมือนกันว่าไม่พอใจการทำงานของรัฐบาลรึเปล่า?

โดยคุณ Andrew Mayes

 

ในขณะที่มนุษย์ทั่วโลกต้องแยกกันอยู่ และเว้นระยะห่างทางสังคม แต่แรคคูนครอบครัวนี้ กลับได้อยู่รวมกันแบบอบอุ่น

พร้อมทำสีหน้าแบบ เป็นไงมนุษย์? ขาดความอบอุ่นใช่มะพวกนาย

โดยคุณ Kevin Biskaborn

 

และเมื่อยิมปิด ฟิตเนสโดนสั่งห้ามเล่นเพราะโควิด-19 คุณก็เลยหาที่ออกกำลังกายคนเดียว

โดยคุณ KT WONG

 

เมื่อรัฐบาลผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ ให้ร้านเหล้าสามารถเปิดได้แล้ว.. และนี่คือคุณในเย็นวันศุกร์

โดยคุณ Lucy Beveridge

 

อันนี้รู้ข่าวว่าร้านเหล้าเปิดแล้วเหมือนกัน แต่เปลี่ยนจากแอนทิโลปเป็นเพนกวิ้น

โดยคุณ Tom Svensson

 

วันนี้แต่งหน้ามาหนาไป และทาลิปที่ปากมาใหญ่ไปหน่อย

โดยคุณ Philipp Stahr

 

และเมื่อคุณอยากจะได้ของเล่นใหม่ ก็เลยแอบมาขอแม่ ซึ่งทำหน้าไม่ค่อยอยากจะซื้อให้เท่าไรนัก..

โดยคุณ Rohin Bakshi

 

สุดท้าย เมื่อเพื่อนเล่ามุกตลกที่สุดให้คุณฟัง…

โดยคุณ Giovanni Querzani

 

และที่สำคัญ สำหรับช่างภาพชาวไทยทุกคน การประกวดนี้ยังไม่ได้ปิดรับสมัครนะครับ ยังมีเวลาถึง 30 มิถุนายนนี้ ใครที่สนใจก็ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมในเว็บไซต์นี้ได้เลย: https://www.comedywildlifephoto.com/


รวม 10 บทเพลง ประพันธ์โดย “ลุงตู่”ตั้งแต่ทำการรัฐประหาร มาถึงปัจจุบัน เป็นเวลา 7 ปี

$
0
0

เนื่องในวันครบรอบรัฐประหารโดยคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. นำโดยพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา 

เป็นเวลากว่า 7 ปีแล้วตั้งแต่ทำการรัฐประหาร ยึดอำนาจจากรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และในปัจจุบันก็ยังคงดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เป็นสมัยที่สอง (ถ้านับรวมตอนที่เป็นรัฐบาล คสช. ด้วยล่ะนะ และอาจจะมีสมัยที่ 3 ต่ออีกก็เป็นได้)

จากการบริหารประเทศมาหลายปี รัฐบาลของท่านพลเอกประยุทธ์  ก็สร้างผลงานเอาไว้มากมาย และอีกหนึ่งผลงานที่มักจะได้รับการพูดถึง นั่นก็คือ “การแต่งพลง”

ในบทความนี้เราจะพาเพื่อนๆ ไปดูกันว่าผลงานเพลงที่แต่ง คสช. นั้นมีกี่เพลง และมีเพลงอะไรบ้าง

 

1. คืนความสุขให้ประเทศไทย

 

เผยแพร่เมื่อวันที่ 7 มิถุนายน 2557 หลังจากการรัฐประหารได้ไม่นาน เป็นการให้คำมั่นสัญญาว่าจะคืนความสุขให้กับคนไทย ขอเวลาอีกไม่นาน

 

2. เพราะเธอคือประเทศไทย

 

เผยแพร่เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2558 มีเป้าหมายเพื่อเชิญชวนประชาชนร่วมมือกันคนละไม้ละมือเพื่อพัฒนาประเทศ เพราะลำพังลุงตู่ทำคนเดียวไม่อาจทำให้ประเทศไทยกลับมามีความสุขได้

 

3. ความหวังความศรัทธา

 

เผยแพร่เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2559 เป็นเพลงที่มีเนื้อหาให้กำลังใจประชาชน พร้อมแนะว่าหากทุกคนมีความสามัคคีกัน ก็จะสามารถก้าวข้ามอุปสรรคไปได้ และสำคัญคือมาแปลก เพราะมีการผสมผสานแนวดนตรีแบบแจ๊สเข้าไป

 

4. สะพาน

 

เผยแพร่เมื่อวันที่ 4 มีนาคม 2560 มีเนื้อหาในแนวให้กำลังใจ หากมีอุปสรรคใดๆ มาขวางกั้น ขอให้อย่าท้อแท้ เพราะอีกไม่ไกล ปลายทางจะเราจะพบกับสิ่งที่ฝันเอาไว้ นั่นก็คือความร่มเย็นที่แสนสดใส

 

5. ใจเพชร

 

เผยแพร่เมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2561 เป็นเพลงแนวให้กำลังใจอีกเช่นเคย มีเนื้อหาเพลงประมาณว่า ให้ทำใจให้แข็งแกร่งดังเพชน แล้วจะก้าวข้ามผ่านอุปสรรคไปได้

 

6. สู้เพื่อแผ่นดิน

 

เผยแพร่เมื่อวันที่ 10 เมษายน 2561 เป็นเพลงที่สื่อให้เห็นถึงความน้อยใจ เพราะมีทำนองเศร้า เหงาหงอย และท้อแท้ เนื้อหาเพลงเป็นแนวให้ความหวัง ให้วันพรุ่งนี้เป็นวันที่ดีกว่าเดิม

 

7. ในความทรงจำ

 

เผยแพร่เมื่อวันที่ 10 มกราคม 2562 เป็นเพลงปลุกใจ ให้ประชาชนคนไทยรวมกันเป็นหนึ่งเดียว อย่าทำลายและทำร้ายกัน ขอให้มีความจริงจังซึ่งกันและกัน เพราะสามัคคีคือพลัง ที่จะนำพาประเทศไปสู่ความมั่งคั่ง และยั่งยืน

 

8. วันใหม่

 

เผยแพร่เมื่อวันที่ 4 มีนาคม 2562 เป็นผลงานเพลงที่ปล่อยออกมาช่วงเลือกตั้ง มีความหมายสื่อถึงความฝันของคนไทย ที่จะได้มีประชาธิปไตยอย่างแท้จริง อีกไม่นานวันใหม่ที่สดใส กำลังจะมาหาพวกเราทุกคน

 

9. มิตรภาพ

 

เผยแพร่เมื่อวันที่ 22 เมษายน 2562 แต่งขึ้นมาเพื่อฉลองสะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชา เนื้อหาในเพลงกล่าวถึงมิตรภาพอันดีระหว่างประเทศไทยและกัมพูชา แผ่นดินสองชาติประชาใกล้ชิด เราคือมิตรร่วมมือด้วยความใส่ใจ

 

10. ไทยคือไทย

 

เผยแพร่เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน 2562 เป็นเพลงมาร์ชแนวปลุกใจ แต่ขึ้นหลังจากพระราชพิธีบรมราชาภิเษก เพื่อให้ประชาชนตระหนักในการทำความดี รักชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์

 

หลังจากนั้นก็ดูเหมือนว่าท่านนายกรัฐมนตรีก็ยังไม่ปล่อยซิงเกิ้ลใหม่ออกมาอีกเลย อาจจะเป็นเพราะงานหนักต้องรับมือกับการระบาดของโควิด-19 จนไม่มีเวลาว่างไปแต่งเพลงเลยก็เป็นได้

ก็ขอเป็นกำลังใจให้ท่านนายกในการทำงานที่หนักหนาสาหัสด้วยนะครับ มีแฟนคลับหลายคนรอฟังเพลงใหม่อยู่

 

เรียบเรียงโดย #เหมียวหง่าว

#เหมียวตะปู แนะนำ “ช่องทำอาหาร”โดยฝีมือสาวเวียดนามสุดเซ็กซี่ ที่แอบมีความ 18+ อยู่เบาๆ…

$
0
0

หากใครกำลังมองหารายการทำอาหารหรือแชนแนลทำอาหารบนยูทูบ วันนี้ #เหมียวตะปู ก็มีแชนแนลหนึ่งที่อาจจะตอบโจทย์ใครหลายๆ คนมาแนะนำ

 

นั่นก็คือแชนแนลทำอาหารที่มีชื่อว่า Pong’s Kitchen And More

 

Pong’s Kitchen And More คือช่องทำอาหารของสาวหน้ามนคนเวียดนามวัย 26 ปี Pong Kyubi ที่มีคนกดติดตามช่องเธอมากกว่า 700,000 คนเลยทีเดียว

ถามว่าทำไมเธอถึงได้รับความนิยมขนาดนั้น? นั่นก็อาจเป็นเพราะฝีมือการทำอาหารให้ดูน่ารับประทาน รวมถึงเธอยังมีคอนเทนต์อื่นๆ ให้ได้ชมอยู่บ้าง ไม่ว่าจะเป็นแนวไลฟ์สไตล์ หรือสตรีมเกม

 

หรือบางทีเหตุผลที่ทำให้เธอได้รับความนิยม…

 

อาจเป็นเพราะรูปลักษณ์ที่ชวนมองหรือเปล่านะ?

 

เพื่อนๆ บางคนอาจกำลังคิดว่า รูปลักษณ์ของเธอดูมีความเซ็กซี่ซะจนเหมือนว่าการเป็นยูทูบเบอร์อาจไม่ใช่งานหลักเพียงงานเดียวของเธอ ซึ่งหากใครคิดอย่างนั้น แสดงว่าคุณมาถูกทางแล้วล่ะนะ

เพราะเอาจริงๆ เธอคนนี้เพิ่งมาเป็นยูทูบเบอร์จริงๆ จังๆ แค่ไม่ถึงปีเท่านั้นเอง แต่ทว่างานหลักจริงๆ ของเธอเลยก็คืองานในวงการบันเทิง

 

เธอนั้นเป็นทั้งนักแสดง

 

และนางแบบสายเซ็กซี่ขยี้ใจ

 

ด้วยส่วนสูง 168 เซนติเมตร สัดส่วน 41-24-43

(สัดส่วนนี้เธอระบุเองเลยนะฮะ)

 

เพราะอย่างนั้นแล้วจึงอาจเป็นอีกเหตุผลหนึ่งว่าทำไมเธอถึงมีผู้ติดตามบนยูทูบมากขนาดนั้น ที่สำคัญคือในบางคลิปยังมียอดชมหลักล้านวิวเลยด้วย

 

ตัวอย่างคลิปทำอาหารของเธอที่มียอดเข้าชมกว่า 1.8 ล้านครั้ง

 

ส่วนคลิปนี้ก็มียอดเข้าชมกว่า 5.9 ล้านครั้งเลยทีเดียว

 

ตัวอย่างความเซ็กซี่บนโซเชียลมีเดียของเธอ

.

.

 

หากเพื่อนๆ คนไหนสนใจอยากลองชมคลิปทำอาหารของ Pong ก็สามารถเข้าไปชมกันได้ที่ช่องยูทูบ Pong’s Kitchen And More

และยังสามารถเข้าไปติดตามเธอบนโซเชียลได้ทั้งอินสตาแกรม pongkyubi1995 ทวิตเตอร์ @pong_kyubi7 และเฟซบุ๊ก Võ Huỳnh Ngọc Phụng

 

 

เรียบเรียงโดย #เหมียวตะปู

ภูเขาน้ำแข็งยักษ์ ใหญ่ที่สุดในโลก กำลังแยกตัวออกจากแอนตาร์กติกา มุ่งหน้าลงทะเลเวดเดลล์

$
0
0

นับว่าเป็นอีกหนึ่งข่าวที่ดูจะกำลังได้รับความสนใจเป็นอย่างมากในต่างประเทศไปแล้ว

เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2021 ที่ผ่านมา สำนักข่าวต่างประเทศหลายสำนัก ได้ออกมารายงานการแตกตัวออกจากทวีปแอนตาร์กติกา ของภูเขาน้ำแข็งยักษ์ขนาดใหญ่ที่สุดในโลก สร้างความฮือฮาให้แก่ผู้ทราบข่าวเป็นอย่างมาก

 

 

การแยกตัวในครั้งนี้ถูกรายงานจากทางองค์การอวกาศยุโรปหรือ ESA ว่าเกิดขึ้น ตั้งแต่เมื่อช่วงวันที่ 13 พฤษภาคม ที่ผ่านมา โดยมันถูกพบเป็นครั้งแรกนักสมุทรศาสตร์ขั้วโลก และมีชื่ออย่างเป็นทางการว่า “ภูเขาน้ำแข็ง A-76 ” อีกที

ภูเขาน้ำแข็งอันนี้ เดิมทีแล้วเคยเป็นส่วนหนึ่งของพื้นที่ด้านตะวันตกของหิ้งน้ำแข็งรอนน์ (Ronne Ice Shelf) และในปัจจุบัน กำลังไหลลงสู่ทะเลเวดเดลล์

โดยส่วนที่แยกออกมามีความยาวราวๆ 170 กิโลเมตรและกว้าง 25 กิโลเมตร ทำให้มันมีพื้นที่ทั้งหมด ราวๆ 4,320 ตารางกิโลเมตร ใหญ่กว่าเกาะมายอร์ก้าของสเปน (ขนาดราว 3,640 ตารางกิโลเมตร)

และใหญ่กว่าภูเขาน้ำแข็งที่ใหญ่ที่สุดก่อนหน้านี้อย่าง A-23A (พื้นที่ราว 3,885 ตารางกิโลเมตร) เสียอีก

 

ภาพ GIF ขั้นตอนการแยกตัวของภูเขาน้ำแข็ง A-76

หากภาพไม่เล่นให้กดที่ภาพ

 

อย่างไรก็ตามเรื่องที่ค่อนข้างน่าสนใจของ ภูเขาน้ำแข็ง A-76 คือนักวิทยาศาสตร์คาดกันว่ามันอาจไม่ได้แยกตัวออกมาเพราะภาวะโลกร้อนอย่างที่ภูเขาน้ำแข็งที่เคยถูกรายงานอื่นๆ เป็น

กลับกันพวกเขาคาดว่านี่น่าจะเป็นส่วนหนึ่งของวัฏจักรธรรมชาติในภูมิภาค ซึ่งจะมีน้ำแข็งก้อนใหญ่หลุดออกจากชั้นน้ำแข็งเป็นระยะๆ อยู่แล้ว

และที่สำคัญคือต่างจากธารน้ำแข็งหรือแผ่นน้ำแข็งที่หลุมมาจากบนบก ภูเขาน้ำแข็ง A-76ยังเป็นของที่ลอยอยู่ในทะเลอยู่แล้ว ดังนั้นต่อให้มันละลายไประดับน้ำทะเลก็จะไม่เพิ่มขึ้นด้วย

เช่นเดียวกับที่ต่อให้น้ำแข็งในเครื่องดื่มของเราละลาย มันก็ไม่ได้เพิ่มระดับน้ำในแก้วแต่อย่างไรนั่นเอง

 

 

ที่มา kapook, cnn และ nbcnews

อดีตวิศวกรนาซ่าเนรมิตด่านสุดท้าทายให้ ‘เหล่ากระรอก’มาในธีม ‘สหายสายลับปล้นวอลนัท’

$
0
0

ก่อนหน้านี้หลายคนอาจจะเคยเห็นคลิปของอดีตวิศวกรนาซ่าอย่าง Mark Rober ผ่านหูผ่านตากันมาบ้างแล้ว เพราะเขาคนนี้เป็นยูทูบเบอร์คนดังสายประดิษฐ์สิ่งของที่เจ๋งและเก่งกาจ จนทำให้เราอยากลองหยิบเครื่องไม้เครื่องมือมาทำตาม

ซึ่งในปีที่แล้ว Mark และเพื่อนๆ ของเขาได้ทำการสร้างสรรค์ด่านอันแสนจะท้าทายให้กับบรรดากระรอกขี้ขโมยที่ชอบแอบเข้ามาขิ๊กอาหารนกในสวนหลังบ้านของเขาไป

อ่านข่าว: นักวิศวกรนาซ่าอยู่บ้านเบื่อๆ ขอแท็กทีมเพื่อนสร้างด่านสุดท้าทายให้เจ้ากระรอกขี้ขโมย

 

 

หากใครที่ได้ชมคลิปของเขาก็คงจะบอกเป็นเสียงเดียวกับว่ามันเจ๋งสุดๆ เพราะด่านและอุปกรณ์ต่างๆ Mark กับเพื่อนๆ ของเขาเป็นคนคิดและประดิษฐ์ขึ้นมาเองทั้งสิ้น

แถมยังมีความน่ารักปนฮาของกระรอกผู้เข้าแข่งขันทั้ง 4 ตัวอย่าง ริก มาร์ตี้ แฟรงก์ และแฟตกัส มาให้เราได้รับชมอีกด้วย

 

 

ซึ่งในปีนี้ Mark และผองเพื่อนก็กลับมาท้าทายเหล่ากระรอกทั้ง 4 ตัวอีกครั้ง กับด่านใหม่แสนท้าทายกว่าเดิมที่มีชื่อว่า The Walnut Heist  โดยด่านนี้ Mark เลือกที่จะให้เหล่ากระรอกร่วมแรงร่วมใจกันปล้นวอลนัทในกล่องใบใหญ่ที่เขาจัดเตรียมไว้ให้

แต่การที่จะได้วอลนัทมานั่งแทะอย่างสุขสำราญใจมันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยค่ะ เพราะเจ้ากระรอกทั้ง 4 ตัวจะต้องผ่านด่านสุดหินที่ยากกว่าปีที่แล้วหลายเท่า

แถมยังเป็นด่านที่ Mark ได้รับแรงบันดาลใจมาจากหนังสายลับต่างๆ อย่าง Mission Impossible และ Ocean Eleven อีกด้วย

 

อย่างด่านแรก ได้รับแรงบันดาลใจมาจากกาสิโนในภาพยนตร์ Ocean Eleven

 

มียามด้วยนะเออ

 

จากนั้นเหล่ากระรอกต้องกระโดดมายังเฮลิคอปเตอร์ที่เต็มไปด้วยวอลนัท (แรงบันดาลใจจาก Mission Impossible)

.

 

มีด่านที่เหล่ากระรอกต้องกดปุ่มให้บันไดเลื่อนลงมาด้วย ท้าทายจริงง

 

คล้ายกับ Mission Impossible เด๊ะ

 

มีด่านเขาวงกตด้วย

 

แถมยังมีด่านเลเซอร์อีก

 

และนี่คือรางวัลที่เหล่ากระรอกจะได้รับ ตู้เซฟวอลนัท

 

เห็นแต่ละด่านแล้วถือว่าเป็นด่านที่ท้าทายสำหรับเหล่ากระรอกตัวน้อยจริงๆ ค่ะ แต่พวกมันก็มีทักษะการผ่านด่านที่แตกต่างกันออกไป ทำให้เราว้าวไปกับความฉลาดและวิธีแก้ปัญหาของมันจริงๆ

อย่างเจ้าแฟรงก์เลือกที่จะสำรวจท่อเขาวงกตจากด้านนอกก่อนที่จะวิ่งเข้าท่อมา มันจึงสามารถถึงที่หมายได้โดยไม่หลงทางเลยสักกะนิด

 

 

“ผมเก่งปะล่ะ”

 

ส่วนแฟตกัสก็เป็นกระรอกอีกที่แทบจะไม่กลัวอะไรเลย

 

ส่วนเจ้ามาร์ตี้ก็เป็นคนกดบันได ทำให้เพื่อนๆ สามารถปีนตามขึ้นมาได้อย่างง่ายดาย

 

แถมยังเป็นคนเปิดเซฟวอลนัทให้เพื่อนๆ อีกด้วย

 

อิ่มหนำสำราญกันเลยทีเดียวเชียว

 

เรียกได้ว่าเป็นความสามัคคีร่วมแรงร่วมใจของเหล่ากระรอกทั้ง 4 ตัวที่ทำให้เราได้ยิ้มไปกับความน่ารักและความฉลาดของพวกมันเลยล่ะ ขอนับถือ Mark เลยค่ะที่สามารถเนรมิตด่านต่างๆ ออกมาได้อย่างสมบูรณ์แบบขนาดนี้

 

ชมคลิปได้ด้านล่างนี้เลย

 

เรียบเรียงโดย #เหมียวนานะ

ที่มา: Mark Rober

“ทน”เพลงไทยเพลงแรกที่ติดชาร์ต Billboard Global Excl. U.S.

$
0
0

“พี่ไม่มีหลุยส์วิตตอง มีแต่หนี้ก้อนโต นวลน้องคงน้ำตานองเพราะต้องช่วยพี่ออกค่าคอนโด~”

เชื่อว่านี่น่าจะเป็นเพลงที่ติดหูเพื่อนๆ บางคน หรือไม่ก็น่าจะเคยได้ยินกันมาบ้าง ซึ่งมันก็เป็นท่อนหนึ่งของเพลง “ทน” จากสองศิลปินแรปเปอร์ “SPRITE” และ “GUYGEEGEE”

แต่เพลงนี้ไม่ได้แค่ติดหูเท่านั้น เพราะล่าสุดพวกเขายังได้สร้างอีกหนึ่งประวัติศาสตร์ให้กับวงการเพลงไทย จากการที่เพลงดังกล่าวสามารถขึ้นไปติดชาร์ตระดับโลก!!

 

วันนี้ (22 พฤษภาคม 2564) ทาง Billboard เปิดเผยว่า เพลง “ทน” ได้ขึ้นมาอยู่ในอันดับที่ 89 ของชาร์ต Billboard Global Excl. U.S. ชาร์ตจัดอันดับเพลงยอดนิยมทั่วโลก (ยกเว้นสหรัฐอเมริกา)

และนั่นก็ทำให้เพลง “ทน” กลายเป็นเพลงจากประเทศไทยเพลงแรก และเป็นเพลงที่มีเนื้อร้องเป็นภาษาไทยเพลงแรกที่ได้ขึ้นมาติดอันดับอยู่บนชาร์ตดังกล่าวเลยด้วย

โดยปัจจุบันเพลงนี้ก็ยังคงติดอันดับเพลงมาแรง อันดับที่ 4 บนยูทูบ แม้จะปล่อยออกมาเกือบเดือนแล้ว ซึ่งปัจจุบันก็มียอดวิวกว่า 73 ล้านครั้ง

เพื่อนๆ สามารถเข้าไปฟังผลงานเพลง “ทน” นี้กันได้ที่ลิงก์: Youtube

 

เรียบเรียงโดย #เหมียวตะปู

ที่มา: Billboard

 

Viewing all 20863 articles
Browse latest View live